โคเลสเตอรอลในเลือดสูง อาจเกิดจาก Lipoprotein ที่สูงได้ 2 ชนิด
1. HDL ย่อมาจากคำว่า high density lipoprotein คือ ไขมันที่มีความหนาแน่นสูง เป็นไขมันที่ดีสำหรับหลอดเลือดแดงเพราะจะป้องกันไม่ให้ไขมันที่ไม่ดี คือ โคเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์ และ LDL ไปพอกสะสมในหลอดเลือดแดง ถ้ามีระดับ HDL ในเลือดต่ำ ก็จะเพิ่มโอกาส เพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการเกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เช่น โรคหลอดเลือดสมองหรือ หลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นต้น
2. LDL มาจากคำว่า Low Density Lipoprotein ( ไขมันไม่ดี ) มีความสัมพันธ์ชัดเจนกับการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นไขมันที่สามารถทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัวได้ ไขมัน LDL ทำหน้าที่ลำเลียงคอเลสเตอรอลทั้งหลายออกจากตับเข้าสู่กระแสเลือดในร่างกาย หากคอเลสเตอรอลเหลืออยู่ในกระแสเลือด ก็จะสะสมเป็นตุ่มเกาะอยู่ตามผนังของหลอดเลือดทำให้หลอดเลือดแข็ง เกิดภาวะหลอดเลือดตีบ นานเข้าก็จะทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน และส่งผลต่อการเป็นโรคความดันสูง โรคหัวใจขาดเลือด ไตวาย อัมพาตอัมพฤกษ์ เป็นต้น
ไขมันเลว
น้ำมันพืชจากถัวเหลือง
น้ำมันข้าวโพด
น้ำมันจากเมล็ดฝ้าย
น้ำมันคาโนล่า
ไขมันทรานส์ (hydrogenated)
น้ำมันที่ใช้ซ้ำ
มาการีน shortening
น้ำมันดอกทานตะวัน
นำมันรำข้าว
ไขมันดี
ไขมันจากสัตว์ที่เลี้ยงตามธรรมชาติ
(ชีส เนย ครีมข้น และอื่นๆ)
นำมันมะกอก
เนยถัวต่างๆ
น้ำมันเมล็ดแฟร์ก
น้ำมันงาแบบสกัดเย็น
น้ำมันจากปลาทะเลจับจากธรรมชาติ
อโวคาโด
คอเลสเตอรอลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. LDL (Low-Density Lipoprotein) หรือไขมันไม่ดี ซึ่งจะนำไขมันจากตับมาสะสมตามเนื้อเยื่อต่างๆ และเกาะตัวตามผนังหลอดเลือด ทำให้เสียความยืดหยุ่นและเกิดหลอดเลือดตีบตันตามมา
2. HDL (High-Density Lipoprotein) หรือไขมันดี เป็นตัวพาไขมันส่วนเกินในกระแสเลือดกลับไปยังตับ ช่วยป้องกันการเกาะตัวของ LDL ที่ผนังของหลอดเลือดแดง ช่วยในการป้องกันการเกิดหลอดเลือดตีบตันได้