SPF และ PA ในครีมกันแดด เราเจอคำนี้บ่อยๆ มาดูกันว่า SPF และ PA ในครีมกันแดดคืออะไร?
ครีมกันแดดสำคัญยังไง? ทำไมต้องทาครีมกันแดด?
ครีมกันแดด ทำหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีในแสงแดด ปกป้องผิวจากแสงหลอดไฟนีออน แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ ครีมกันแดดช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย ผิวหนังเหี่ยวย่นหรือดูแก่ก่อนวัย ผิวแห้งกร้าน ป้องกันการเกิดฝ้า กระ ปัญหาผิวคล้ำเสีย และมะเร็งผิวหนัง ซึ่งแนะนำให้ทุกคนทาครีมกันแดดทุกวันแม้จะอยู่แต่ในบ้านก็ตาม
SPF และ PA ในครีมกันแดดคืออะไร?
SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor คือความสามารถในการป้องกัน UVB ได้มากกว่าปกติกี่เท่า เช่น จากปกติตากแดด 15 นาที ผิวจะมีอาการแดง แต่เมื่อใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30 ผิวหนังจะแดงเมื่อตากแดดเป็นเวลา 15×30 = 450 นาที นั่นเอง ส่วน PA (พีเอ) ย่อมาจาก The protection grade of UVA คือความสามารถในการป้องกัน UVA เช่น PA+ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA มากขึ้น 2-4 เท่า, PA++ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA มากขึ้น 4-8 เท่า และ PA+++ มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA มากกว่า 8 เท่า ทั้งนี้ผู้ใช้ควรทาครีมกันแดดซ้ำอย่างน้อยทุก 2 – 4 ชั่วโมง เพื่อประโยชน์สูงสุดครับ
เราควรเลือกใช้ครีมกันแดดแบบไหนดี?
ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานครับ ปัจจุบันครีมกันแดดมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นครีม เจล หรือผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น แบบครีม เหมาะสำหรับบริเวณใบหน้าและผู้ที่มีผิวแห้ง แบบเจล เหมาะสำหรับบริเวณที่มีขนเยอะ เช่น หนังศีรษะหรือหน้าอกของผู้ชาย ซึ่งควรมีทั้งค่า SPF และ PA แต่หากมี plan จะไปว่ายน้ำ แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่กันน้ำได้ด้วยครับ