ผักพลูคาว หรือภาคเหนือเรียก ผักคาวตอง และมีชื่อตามท้องถิ่นที่อยู่อาจเรียกต่างกันไป พลูคาวเป็นพืชล้มลุกพบได้ทั่วไปในแถบเอเชีย ประเทศไทยพบได้มากทางภาคเหนือ อีสาน พลูคาวมีลักษณะใบเป็นรูปหัวใจ ใบเลี้ยงเดี่ยว สีเขียวเข้ม ใต้ใบมีสีแดง ขนาดใบกว้าง 3-4 ซม. ดอกสีขาว 4กลีบ เกสรตั้งสูง มีกลิ่นแรง เมื่ออายุ 1 เดือนสามารถนำมารับประทานสดได้เลย อีกทั้งการขยายพันธุ์ของพลูคาวง่าย เนื่องจากลำต้นมีรากงอกออกมาทางข้อ นำลำต้นไปลงดินผักพลูคาวก็จะแพร่พันธุ์ พลูคาวเป็นสมุนไพรพื้นบ้าน ที่ชาวบ้านในถิ่นที่อยู่ทางภาคเหนือ และอีสานนิยมนำมารับประทานสดกับแกล้มลาบหมู ลาบปลา ลาบวัว ส้า ก้อย แจ่ว กับน้ำพริกอร่อยไม่แพ้กัน อีกทั้งยังนำไปสกัดเป็นน้ำผักพลูคาว ไว้ดื่มเป็นยารักษาและป้องกันโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน และยังมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง
นอกจากการน้ำมาสกัดน้ำแล้วนั้นยังสามารถนำมาทำเป็นชาพลูคาว โดยวิธีการทำคือ น้ำใบสดไปตากให้แห้งสนิท จนใบพลูคาวเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้ผักพลูคาวเก็บไว้ได้นาน วิธีนำมารับประทานนั้นไม่ยาก แค่นำผักพลูคาวที่ตากแห้งแล้วมาใส่แก้วแล้วเติมน้ำน้อนลงไป รอสักครู่ก็นำมาดื่มได้ทันที เพียงเท่านี้ก็ได้ดื่มน้ำชาพลูคาว ที่ดีค่อสุขภาพ กลิ่นไม่แรงเหมือนตอนรับประทานสดไม่แพ้กันเลย แถมยังดื่มง่ายอีกต่างหาก
แม้ว่าผักพลูคาวจะมีกลิ่นที่แรงก็ตาม แต่เมื่อนำมารับประทานกับอาหารคาว ยังให้รสชาติที่อร่อย แถมยังเป็นยาป้องกันและรักษาโรคได้หลายชนิด มีประโยชน์แบบนี้ต้องหามาดื่มบ้างแล้ว