สับปะรดเป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นใต้ดิน ปล้องสั้น ไม่แตกกิ่งก้านมีแต่กาบใบห่อหุ้มลำต้น
สรรพคุณของสับปะรด หากนำเอาเหง้าและตะเกียงมาปรุงเป็นยาต้มไว้ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว แก้มุตกิดระดูขาว แก้หนองใน หากนำเปลือกมาต้มจะช่วยแก้กระษัย บำรุงไต หากนำใบมาต้มจะเป็นยาขับพยาธิ ในส่วนของผลสับปะรดทานแล้วจะช่วยระงับการอักเสบ อาการบวม ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อทำให้แผลหายเร็ว กัดเสมหะในลำคอ ย่อยอาหารในกระเพาะ ลำไส้ เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้โรคลักปิดลักเปิด
ทุกส่วนของสับปะรดไม่ว่าจะเป็น ใบ แกนลำต้น เหง้า ผล จะมีเอนไซม์บรอมีเลน (Bromelain) อยู่เป็นจำนวนมาก หลาย ๆ ประเทศได้ทำการสกัด บรอมีเลน จากสับปะรดมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ เช่น นำมาใช้เพิ่มฤทธิ์ในการรักษาโรคมะเร็งเมื่อใช้ร่วมกับยารักษามะเร็ง ช่วยสมานบาดแผลจากการผ่าตัด ช่วยลดอาการอักเสบบวม ลดการปวดตามข้อ ประสาท เส้นเอ็น ช่วยป้องกันการจับตัวของเกล็ดเลือดในหลอดเลือดแดง ซึ่งมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดอุดตัน ส่วนประโยชน์ทางโภชนาการนั้น เอนไซม์บรอมีเลน สามารถย่อยโปรตีนประเภทเนื้อสัตว์ให้มีโมเลกุลเล็กลงทั้งสภาวะความเป็นกรดในกระเพาะอาหารและความเป็นด่างในลำไส้เล็ก ดังนั้นหากรับประทานสับปะรดร่วมกับมื้ออาหารประเภทเนื้อสัตว์ก็จะช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหาร ลดอาการจุกเสียดแน่นท้องได้ดี นอกจากนี้ ในแกนของสับปะรดยังมีสารฮอร์โมนกระตุ้นเซ็กซ์ในผู้ชายอีกด้วย มีคำกล่าวที่ว่า กินสับปะรดแล้วจะทำให้อสุจิมีรสหวานนั้นก็มีสิทธิเป็นไปได้ เพราะมีคนกล่าวไว้ว่า ถ้าคุณผายลมหรือมีกลิ่นใต้วงแขนแปลก ๆ จากการกินเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากนมมากเกินไป มีสิทธิเป็นไปได้มากที่อสุจิและช่องคลอดนั้นจะมีกลิ่นเดียวกัน