โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่พบบ่อยในประชากรทั่วโลก และมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับโรคเบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) ที่เกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน

จำนวนผู้ป่วยเบาหวานขึ้นตา

ปัจจุบันมีผู้ป่วยเบาหวานกว่า 300 ล้านคนทั่วโลก และในประเทศไทยมีผู้ป่วยเบาหวานสูงถึง 3.2 ล้านคน หรือร้อยละ 6.4 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ และจำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในทุกประเทศทั่วโลก

อาการเบาหวานขึ้นตา

เบาหวานขึ้นตาเกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ส่งผลให้หลอดเลือดที่จอตาได้รับความเสียหาย โรคนี้แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ

  1. เบาหวานขึ้นตาระยะเริ่มแรก (Nonproliferative Diabetic Retinopathy: NPDR): เป็นระยะที่ผนังหลอดเลือดที่จอตาไม่แข็งแรง อาจทำให้เลือดหรือของเหลวรั่วออกมาในจอตา ซึ่งอาจทำให้เกิดจอตาบวมหรือจุดภาพชัดบวม ในระยะเริ่มแรกอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย
  2. เบาหวานขึ้นตาระยะก้าวหน้า (Proliferative Diabetic Retinopathy: PDR): เป็นระยะที่หลอดเลือดเกิดการอุดตันจนเลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ มีการขาดเลือดที่จอตามากจนเกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่ ซึ่งหลอดเลือดที่สร้างขึ้นใหม่เหล่านี้อาจไม่ได้พัฒนาอย่างเหมาะสม มีผนังไม่แข็งแรง เปราะแตกฉีกขาดได้ง่าย ทำให้มีเลือดออกในวุ้นตา เกิดพังผืดดึงรั้งจอตา ซึ่งเป็นสาเหตุให้จอตาลอก (Retinal Detachment) ตามมาได้

การรักษาเบาหวานขึ้นตา

การรักษาเบาหวานขึ้นตามีหลายวิธี ซึ่งแนวทางการรักษาจะขึ้นกับระยะของโรคและความรุนแรงของอาการ

  • การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและระดับน้ำตาลสะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการรักษา ควรควบคุมโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เพื่อช่วยชะลอความรุนแรงของโรคได้
  • การตรวจติดตามอาการอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้เร็วและได้รับการรักษาได้อย่างเหมาะสมทันท่วงที ช่วยลดโอกาสเกิดภาวะของโรคที่รุนแรงและป้องกันการสูญเสียการมองเห็นได้
  • การรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อควบคุมและรักษาการรั่วซึมของหลอดเลือด จอตาขาดเลือด และหลอดเลือดที่ผิดปกติ โดยอาจใช้ยากลุ่ม Anti-VEGF เพื่อยับยั้งการเกิดหลอดเลือดงอกใหม่ หรือในกรณีรุนแรงอาจต้องพิจารณาการผ่าตัดวุ้นตา (Vitrectomy) เพื่อป้องกันการสูญเสียการมองเห็นถาวร

การป้องกันและดูแลสุขภาพตา

เพื่อป้องกันการเกิดเบาหวานขึ้นตาและสูญเสียการมองเห็น ควรปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้:

  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับความดันโลหิต และระดับไขมันในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  • สังเกตความเปลี่ยนแปลงของการมองเห็นและพบแพทย์โดยด่วน หากมีการมองเห็นเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เช่น ตามัว มองไม่ชัด หรือมองเห็นเป็นจุดดำ เพื่อรับการตรวจและรักษาทันท่วงที
  • พบแพทย์เพื่อตรวจตาเป็นประจำทุกปี ถึงแม้ว่าการมองเห็นจะยังคงเป็นปกติก็ตาม

ด้วยความรู้เกี่ยวกับเบาหวานขึ้นตาและการดูแลสุขภาพตาอย่างเหมาะสม เราสามารถป้องกันการสูญเสียการมองเห็นหรือตาบอดจากโรคนี้ได้อย่างมั่นคง

ข้อมูลจาก: ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลกรุงเทพ

Shares: