เช็คเบาหวานด้วยตัวเอง อาการเริ่มต้นของโรคเบาหวานเป็นยังไงมาดูกัน

อาการเริ่มต้นของโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นโรคที่มีการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งในระยะแรกอาการอาจไม่ชัดเจน แต่เมื่อรู้จักกับอาการเริ่มต้นของเบาหวาน จะช่วยในการตรวจจับและรักษาได้ทันท่วงที

  1. ผู้ป่วยอาจรู้สึกหิวน้ำและปัสสาวะบ่อย รับประทานอาหารมากขึ้น แต่น้ำหนักตัวยังคงลดลง และอาจรู้สึกอ่อนเพลียบ่อยๆ
  2. อาการที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนระยะยาวของโรคเบาหวาน อาจมีอาการตามัว, ชาปลายมือหรือปลายเท้า, หรือมีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดสมอง
  3. ผู้ป่วยอาจรู้สึกอ่อนเพลียอย่างรุนแรง, หายใจหอบ, หรือมีการเปลี่ยนแปลงในระดับความรู้สึกตัว ซึ่งต้องรับการรักษาด่วน
  4. โรคเบาหวานอาจทำให้เกิดการติดเชื้อบางชนิด เช่น การติดเชื้อราบนผิวหนัง หรือช่องคลอด และการรักษาแผลอาจช้ากว่าปกติ
  5. บางครั้งโรคเบาหวานอาจถูกตรวจพบจากการตรวจสุขภาพประจำปี หรือก่อนการผ่าตัด

การรู้จักกับอาการเริ่มต้นของโรคเบาหวานจะช่วยในการตรวจจับและรักษาโรคให้ได้ทันท่วงที และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เช็คเบาหวานด้วยตัวเอง เบื้องต้น

การตรวจเช็คโรคเบาหวานด้วยตัวเอง อาจจะไม่สามารถให้ผลที่แน่นอนและถูกต้องเทียบกับการตรวจที่โรงพยาบาลหรือคลินิกเฉพาะทางได้ แต่ยังมีวิธีการตรวจเช็คอาการหรือสัญญาณเบื้องต้นที่บ่งบอกถึงโรคเบาหวานได้ ลองสังเกตอาการกัน

  1. หากคุณรู้สึกหิวน้ำบ่อย ๆ, ปัสสาวะบ่อย ๆ, รู้สึกอ่อนเพลีย, มีการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักตัวโดยไม่มีเหตุผล, หรือมีการเปลี่ยนแปลงในการมองเห็น ควรปรึกษาแพทย์
  2. ใช้เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดที่ขายในร้านขายยา ซึ่งสามารถใช้ตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดเองได้ที่บ้าน แต่ควรใช้เป็นเครื่องมือเสริม และไม่ควรพึ่งพาผลจากเครื่องวัดเพียงอย่างเดียว
  3. การตรวจเช็คสุขภาพประจำปีสามารถช่วยตรวจจับโรคเบาหวานได้ โดยเฉพาะการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดจากห้องปฏิบัติการ
  4. ตรวจเช็คการมีแผล ผู้ที่มีโรคเบาหวานมักมีแผลที่รักษายาก หากคุณพบแผลที่ไม่หายหรือรักษายาก ควรปรึกษาแพทย์

แม้ว่าการตรวจเช็คด้วยตัวเองจะช่วยในการตรวจจับสัญญาณเบื้องต้น แต่การปรึกษาและตรวจเช็คกับแพทย์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการวินิจฉัยโรคเบาหวานและการรักษาที่เหมาะสม

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพในฐานะผู้เป็นเบาหวาน

คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพในฐานะผู้เป็นเบาหวาน

  1. การดื่มน้ำสะอาดไม่น้อยกว่า 8 แก้วต่อวันเป็นสิ่งที่สำคัญ น้ำช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและส่งเสริมการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย.
  2. ต้องตรวจสอบระดับน้ำตาล, ความดันโลหิต, ไขมันในเลือด และน้ำหนักตัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น.
  3. ควรรับประทานอาหารให้ตรงเวลา และเน้นอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ข้าวและแป้งไม่ขัดสี, ผลไม้สด, เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน, และผักใบเขียว.
  4. น้ำมันพืชเช่น น้ำมันรำข้าว หรือน้ำมันถั่วเหลืองเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ควรหลีกเลี่ยงน้ำมันจากสัตว์ และน้ำมันปาล์ม.
  5. นมรสจืดพร่องมันเนย หรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการบริโภค.
  6. การออกกำลังกายเป็นส่วนสำคัญของการดูแลสุขภาพ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์.
  7. ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในการรับประทานยา และฉีดยา.
  8. สำรวจเท้าทุกวัน และใช้โลชั่นหลังจากทำความสะอาด เพื่อป้องกันการเกิดแผล.
  9. ควรตรวจฟันและช่องปากอย่างสม่ำเสมอ.
  10. ควรลดการบริโภคอาหารหวาน, อาหารมัน, และอาหารเค็ม เพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี.
  11. การงดสูบบุหรี่และการบริโภคแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับผู้เป็นเบาหวาน.

หวังว่าคำแนะนำนี้จะช่วยให้คุณมีการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น และสามารถป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้

Shares: