ปัจจัยเสี่ยงและการป้องกัน โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งของโรคทางระบบประสาท ซึ่งเป็นโรคที่มีความผิดปกติของระบบประสาทที่มีสาเหตุมาจากหลอดเลือดในสมอง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- โรคหลอดเลือดสมองจากการขาดเลือด เช่น ตีบ อุดตัน
- โรคหลอดเลือดสมองจากเลือดออกในสมอง เป็นสาเหตุการตายที่สำคัญถ้าหากได้รับการรักษาไม่ทันอาจจะมีการพิการตามมา
ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
ได้แก่ อายุมาก ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และขาดการออกกำลังกาย
อาการที่แสดงออกมา คือ แขนขาอ่อนแรง ตามัว มองเห็นภาพซ้อน การพูดผิดปกติ เช่น พูดตะกุกตะกัก หรือพูดไม่ได้ หรือไม่เข้าใจคำพูด มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงทันทีโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน เวียนศีรษะ มีอาการมึนงง บ้านหมุน หรือเดินเซ เสียการทรงตัว ล้มง่าย หากมีอาการที่กล่าวมาให้รีบพบแพทย์ทันที
การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมอย่าให้อ้วน
- งดสูบบุหรี่
- งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ถ้าพบปัจจัยเสี่ยงต้องรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
- ในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้ว ต้องรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ห้ามหยุดยา หรือปรับยาโดยเด็ดขาด
- ผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มที่มีปัญหาโรคหัวใจ หรือโรคของหลอดเลือด ควรพบแพทย์ รักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของโรค
- ในกรณีที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบอุดตันอยู่แล้ว แพทย์จะรักษาโดยให้รับประทานยาเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง
- รับประทานวิตามินอี จากการวิจัยพบว่า วิตามินอี สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ร้อยละ 53
- รักษาความสะอาดของช่องปากไม่ให้เหงือกอักเสบเพราะจะเพิ่มการแข็งตัวของหลอดเลือด ซึ่งจะเพิ่มไขมันในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเลือดสมอง
- รับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เพราะน้ำมันจากปลา สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้