ปัจจัยเสี่ยงและการป้องกัน โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดโรคหนึ่งของโรคทางระบบประสาท ซึ่งเป็นโรคที่มีความผิดปกติของระบบประสาทที่มีสาเหตุมาจากหลอดเลือดในสมอง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ

  1. โรคหลอดเลือดสมองจากการขาดเลือด เช่น ตีบ อุดตัน
  2. โรคหลอดเลือดสมองจากเลือดออกในสมอง เป็นสาเหตุการตายที่สำคัญถ้าหากได้รับการรักษาไม่ทันอาจจะมีการพิการตามมา

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

ได้แก่ อายุมาก ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และขาดการออกกำลังกาย

อาการที่แสดงออกมา คือ แขนขาอ่อนแรง ตามัว มองเห็นภาพซ้อน การพูดผิดปกติ เช่น พูดตะกุกตะกัก หรือพูดไม่ได้ หรือไม่เข้าใจคำพูด มีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงทันทีโดยไม่มีสาเหตุชัดเจน เวียนศีรษะ มีอาการมึนงง บ้านหมุน หรือเดินเซ เสียการทรงตัว ล้มง่าย หากมีอาการที่กล่าวมาให้รีบพบแพทย์ทันที

การป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง

  1. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้เหมาะสมอย่าให้อ้วน
  2. งดสูบบุหรี่
  3. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  4. ตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ถ้าพบปัจจัยเสี่ยงต้องรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
  5. ในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้ว ต้องรักษาและพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ห้ามหยุดยา หรือปรับยาโดยเด็ดขาด
  6. ผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มที่มีปัญหาโรคหัวใจ หรือโรคของหลอดเลือด ควรพบแพทย์ รักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของโรค
  7. ในกรณีที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบอุดตันอยู่แล้ว แพทย์จะรักษาโดยให้รับประทานยาเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง
  8. รับประทานวิตามินอี จากการวิจัยพบว่า วิตามินอี สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ร้อยละ 53
  9. รักษาความสะอาดของช่องปากไม่ให้เหงือกอักเสบเพราะจะเพิ่มการแข็งตัวของหลอดเลือด ซึ่งจะเพิ่มไขมันในหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเลือดสมอง
  10. รับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 เพราะน้ำมันจากปลา สามารถลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
Shares: