วิธีบริหารตาให้สุขภาพดีในยุคที่มือถือครองโลก
การใช้งานโทรศัพท์มือถือในยุคปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วที่คนเราจะขาดไม่ได้เสียเลย มีคนบอกว่าถ้าเราลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่บ้านเวลาออกไปข้างนอกก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเราลืมมือถือติดตัวไปด้วยนี่ไม่ได้เลย เรื่องใหญ่เลยต้องกลับรถมาเอาให้ได้ เหมือนสิ่งที่เราต้องติดตัวไว้ตลอดเวลา เวลามองไปทางไหนก็จะเห็นคนกดและจ้องแต่มือถือจิ้มจอกันอยู่ทั้งวัน ทั้งคืน ตื่นมาก็คว้าโทรศัพท์มือถือก่อนเป็นอันดับแรก และในปัจจุบันผู้คนก็เริ่มมีอาการป่วยทางด้านดวงตามากขึ้น สุขภาพตาของคนที่ใช้มือถือก็เริ่มมีปัญหาเยอะมากขึ้นในปัจจุบัน
สำหรับอาการที่มีผลข้างเคียงถ้าหากเราจ้องหน้าจอนานๆ ก็จะมีอาการ ตาล้า ตาพร่ามัว สายตาสั้น สายตายาว เพราะว่าเราใช้กล้ามเนื้อตามากเกินไป และที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือแสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือ แทปเลต คอมพิวเตอร์ ที่เราได้รับในระหว่างวัน คือ แสงสีฟ้า (Blue Light) คือแสงชนิดหนึ่ง ซึ่งมันสามารถจะไปทำลายจอประสาทตาได้มากกว่าคลื่นแสงชนิดอื่น ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพคือ เวลาเรามองท้องฟ้า มองแสงอาทิตย์ที่เป็นสีขาว มันจะมีแสงสีฟ้าปนอยู่ในนั้นด้วย เปรียบเทียบกับถ้าเป็นจอคอมพิวเตอร์ หลอดไฟ LED หน้าจอมือถือจะปล่อยแสงสีฟ้าออกมามากกว่าแสงอาทิตย์ เหมือนคล้ายกับเราจ้องดวงอาทิตย์ในร่มนั่นเอง โดยเราจ้องมันทั้งวันทั้งคืน
วิธีป้องกันแสงสีฟ้าจากมือถือที่เราใช้ทุกวันคือ เราควรใช้ตามความเป็นจริง ใช้เฉพาะจำเป็น ไม่ควรจ้องหน้าจอนานจนเกินไป ให้พักสายตา เช่น อาจจะใช้มือถือ 30 นาที พักใช้โทรศัพท์ 30 นาที รวมถึงการออกกำลังกายกล้ามเนื้อดวงตา เพื่อชะลอการป่วยเป็นโรคสายตายาว
วิธีทำคือ โชว์นิ้วชี้ขึ้นมาตรงกลางหน้า แล้วใช้ดวงตาจ้องมอง แล้วหดมือที่ชี้เข้ามาหาตัวเอง ทำ 10-20 ครั้ง จะสังเกตได้เลยว่าสุขภาพตาจะดีขึ้น กล้ามเนื้อดวงตาจะแข็งแรง
แม้เราจะอยู่ในยุคดิจิตอล เราก็ควรดูแลดวงตาของเราเป็นอย่างดีนะครับ ใช้โทรศัพท์ให้พอเหมาะ อยู่กับชีวิตจริงให้มากขึ้น อยู่กันแบบออฟไลน์เหมือนเมื่อก่อนบ้าง เพื่อที่จะได้มีสายตาดีๆใช้ไปอีกนานเท่านานครับผม