รู้จักเบาหวานประเภทที่ 2 และการดูแลตนเอง
เบาหวานประเภทที่ 2 เป็นโรคเรื้อรังที่มีผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะทางการผลิตอินซูลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หากไม่มีการรักษาระดับอินซูลินและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในช่วงปกติ โรคเบาหวานประเภทที่ 2 อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้มากขึ้น และสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
ใครบ้างเสี่ยงเป็นเบาหวานชนิดที่ 2
- มีน้ำหนักเกิน รูปร่างท้วม หรืออ้วน โดยมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ที่ 23-24.90
- สมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2
- เพศชาย มีอายุ 40 ปีขึ้นไป
- เพศหญิง เสี่ยงเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- ไม่ค่อยได้ขยับร่างกาย ร่างกายไม่มีการเผาผลาญพลังงาน
- เคยได้รับการวินิจฉัยเป็นโรคความดันโลหิตสูง
การดูแลตนเองสำคัญมากสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานประเภทที่ 2 เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน นี่คือบางขั้นตอนที่สามารถทำได้เพื่อดูแลตนเอง:
1. ควบคุมอาหาร: การรับประทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสม เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารที่มีไขมันน้อย สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ นอกจากนี้ การควบคุมการรับประทานอาหารยังช่วยลดน้ำหนักและควบคุมความดันโลหิต
2. ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายใช้น้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดความดันโลหิต ควรออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์
3. การตรวจสุขภาพ: ควรตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิต และระดับไขมันในเลือด การตรวจสุขภาพจะช่วยตรวจจับภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวานได้เร็วและรู้ผลในข้างต้น
4. การจัดการกับความเครียด: ความเครียดสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น ควรใช้เทคนิคการจัดการกับความเครียด เช่น การฝึกสติ การทำโยคะ หรือกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย
5. การเช็ดตัว: การดูแลผิวหนังเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากโรคเบาหวานทำให้ผิวหนังแห้งและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ควรเช็ดตัวให้สะอาดและใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสม
6. การตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือด: ควรตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบว่าการดูแลตนเองที่ทำอยู่มีผลกระทบต่อระดับน้ำตาลในเลือดหรือไม่
7. การทานยา: บางครั้งการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการดูแลตนเองไม่เพียงพอ ในกรณีนี้ แพทย์อาจสั่งให้ทานยาเพิ่มเติมเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
การดูแลตนเองเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมโรคเบาหวานประเภทที่ 2 และลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน อย่าลืมปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในช่วงปกติ เพื่อสุขภาพที่ดีและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
คำถามที่พบบ่อย:
1. โรคเบาหวานประเภทที่ 2 สามารถหายได้หรือไม่?
– โรคเบาหวานประเภทที่ 2 ไม่สามารถหายได้ แต่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการดูแลตนเองและการรักษาทางยา
2. การออกกำลังกายช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไร?
– การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการใช้น้ำตาลในเลือดเป็นพลังงาน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในช่วงปกติ
3. การควบคุมน้ำหนักสามารถช่วยจัดการโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ได้หรือไม่?
– การควบคุมน้ำหนักสามารถช่วยลดความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้การควบคุมโรคเบาหวานประเภทที่ 2 เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป:
การดูแลตนเองเป็นสิ่งสำคัญในการควบคุมโรคเบาหวานประเภทที่ 2 เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน การควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย การตรวจสุขภาพและการรักษาทางยา เป็นสิ่งที่ควรทำเพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและสุขภาพที่ดีขึ้น