การดูแลตนเองสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานในช่วงที่มีการระบาดของไข้หวัด COVID-19

COVID-19 เป็นเชื้อไวรัสในกลุ่มโคโรนา (coronavirus) ชนิดใหม่ ก่อให้เกิดการติดเชื้อบริเวณทางเดินหายใจ ซึ่งอาการมีได้ตั้งแต่ไม่มีอาการจนถึงอาการหนัก ในผู้ป่วยบางราย coronavirus สามารถทำให้เกิดปอดติดเชื้อภาวะไตล้มเหลว และอาจ เสียชีวิตได้เชื้อไวรัสนี้ติดต่อได้จากเสมหะหรือน้าลายขณะไอจามหรือพูดคุย

องค์การ์อนามัยโลก (World health organization ; WHO) ได้ประกาศว่า COVID-19 มีการระบาดทั่วโลก และตอนนี้ยังไม่มียำหรือวัคซีนสำหรับรักษาและป้องกัน COVID-19 โดยเฉพาะลักษณะอาการทั่วไป จะคล้ายกับอาการไข้หวัดธรรมดา ได้แก่

  • ไข้
  • ไอหรือจาม
  • หายใจไม่สะดวก
  • อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว

ผู้ป่วยจะมีอาการ 3-7 วันหลังจากสัมผัสไวรัสชนิดนี้ แต่บางรายอาจใช้เวลาถึง 14 วันจึงจะแสดงอาการประชากรทุกกลุ่มอายุสามารถติดไวรัสนี้ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ (มากกว่า 80%) COVID-19 มีอาการไม่รุนแรงเหมือนไข้หวัด ทั่วไป หรืออาจไม่มีอาการเลย ผู้ป่วยอาจไม่จำเป็นที่ต้องไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยประมาณ 15% อาจมีอาการรุนแรง และ5% อาการรุนแรงมาก ซึ่งควรไปพบแพทย์

ผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคร่วมเช่น เบาหวาน โรคหัวใจ โรคหอบหืด มีโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อ COVID-19 ได้ รุนแรงกว่าผู้เป็นเบาหวานที่มีการติดเชื้อการคุมระดับน้ำตาลในเลือดจะผันผวนและควบคุมได้ยาก ส่งผลทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน จากโรคเบาหวานได้อธิบายได้จาก 2 เหตุผล เหตุผลแรกคือภูมิคุ้มกันต่าลง ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น และอีกเหตุผลคือเชื้อมัก เจริญเติบโตได้ดีในภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดสูง COVID-19 สามารถติดต่อผ่านทางละอองอากาศจากการพูด การไอหรือจาม ไวรัสสามารถมีชีวิตรอดในธรรมชาติ อาจ เป็นชั่วโมงหรือวัน ขึ้นอยู่กับพื้นผิววัสดุและสภาพแวดล้อม มันจึงสามารถติดต่อผ่านทางการสัมผัส หรือได้รับหรือสัมผัสละออง อากาศจากผู้ที่ติดเชื้อดังนั้นควรป้องกันด้วยการล้างมือและงดการเข้าในพื้นที่ที่มีผู้คนแออัด

สำหรับผู้เป็นเบาหวาน ควรระมัดระวัง การหลีกเลี่ยงการติดเชื้อเป็นสิ่งสำคัญ ล้างมือสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณใบหน้า ควรล้างมือและทำให้มือแห้งสะอาดก่อนสัมผัสใบหน้า ทำความสะอาดวัตถุหรือบริเวณที่ถูกสัมผัสบ่อย ๆ เวลาไอหรือจาม ควรนำต้น แขน หรือข้อพับแขนมาปิดบริเวณปากและจมูก ไม่ควรใช้มือปิดเนื่องจากมืออาจไปสัมผัสวัตถุ สิ่งของอื่นต่อเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่เชื้อี หลีกเลี่ยงการติดต่อกับผู้ป่วยที่มีอาการเสี่ยงต่อโรคไวรัสนี้ เช่น ไอหรือจาม คอยแนะนำหรือพูดคุยกับคนในครอบครัวถึงการป้องกันหรือหลีกเลี่ยงการติดเชื้อเช่น คุณควรหลีกเลี่ยงการเดินทาง
ด้วยรถโดยสารที่แออัด คุณควรหลีกเลี่ยงการไปเที่ยวหรือคุณควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีผู้คนชุมนุมกันจำนวนมาก ถ้ารู้สึกว่าตัวเองมีอาการหรือสงสัยจะป่วย โปรดพักผ่อนอยู่บ้าน และโทรศัพท์เพื่อขอคำแนะนำได้ที่กรมควบคุมโรค
หมายเลขโทรศัพท์ 1422 หรือสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 1669 หากมีอาการหนัก ควรโทรศัพท์เพื่อขอคำแนะนำวิธีการไปพบแพทย์ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 1422 หรือ 1669

ถ้าหากคุณเป็นเบาหวานเตรียมตัวให้พร้อมหากคุณรู้สึกไม่สบาย

  • ติดต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือหากจำเป็น
  • ตั้งใจควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ดีขึ้น
  • หากคุณมีอาการไข้สูง ไอจามหรือหายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์ หากมีเสมหะร่วมด้วยบ่งบอกว่ามีการติดเชื้อคุณควรได้รับการรักษาอย่างทันที
  • การติดเชื้อทุกชนิดสามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด และทำให้ร่างกายขาดน้ำจึงควรดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
  • เช็คดูว่ายารักษาเบาหวานมีเพียงพอหรือไม่หากคุณต้องถูกกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์
  • สำรองอาหารโดยเฉพาะประเภทน้ำตาลอย่างเพียงพอสำหรับการแก้ไขภาวะน้ำตาลต่ำได้ทันท่วงที
  • ถ้าหากคุณอยู่บ้านคนเดียว หาคนที่สามารถไว้วางใจและมั่นใจว่าจะช่วยเหลือคุณได้หากคุณต้องการความช่วยเหลือ

สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

Shares: